เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล เรียบเรียง
ณัฐนันท์ ทองเกื้อสกุล แก้ไขเพิ่มเติม
ตามรายงานของสหประชาชาติ ในปี 2018 มีชาวอุยกูร์จำนวนมากกว่าหนึ่งล้านคนถูกขังอยู่ใน “ค่ายให้การศึกษาใหม่” ค่ายนี้บังคับให้ชาวอุยกูร์และกลุ่มชาติพันธุ์อื่น ๆ ที่ถูกคุมขังต้องสื่อสารกันด้วยภาษาจีนเท่านั้น หากผู้ถูกคุมขังคนใดพูดภาษาของตนเอง เช่น ภาษาอุยกูร์ จะต้องถูกลงโทษอย่างหนัก
การบังคับขู่เข็ญให้พูดภาษาจีนนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ภายในรั้วสนามของค่ายซึ่งมีกล้องวงจรปิดสาดส่องไปมาตลอดทั้งวันทั้งคืนเท่านั้น แต่ภายนอกค่าย ในเขตปกครองตนเองซินเจียง (มณฑลตะวันตกสุดของจีน) ก็พบการบังคับเหล่านี้ผ่านนโยบายการหลอมรวมความเป็นกลุ่มชาติพันธุ์อุยกูร์ให้เป็นส่วนหนึ่งของความเป็นจีน
ล่าสุด รัฐบาลจีนริเริ่มนโยบาย “โรงเรียนสองภาษา” ขึ้น หากรับรู้ชื่อนโยบายอย่างผิวเผินคงจะเผลอคิดไปว่า นโยบายนี้เป็นความพยายามที่ดีของจีนที่จะให้วัฒนธรรมอุยกูร์กับจีนไปร่วมกันได้ แต่ในความเป็นจริง โรงเรียนเหล่านี้สั่งห้ามไม่ให้นักเรียนพูดภาษาอุยกูร์ในชั้นเรียน และให้พูดแต่ภาษาจีนกลางเท่านั้น โดยรัฐบาลจีนตั้งเป้าหมายว่า ภายในปี 2020 จะต้องมีโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาที่แปรสภาพเป็นระบบนี้อย่างน้อยร้อยละ 90
Abduweli Ayup ชาวอุยกูร์ที่ต่อสู้เพื่อรักษาวัฒนธรรมของคนอุยกูร์ เขาเปิดโรงเรียนที่ใช้ภาษาอุยกูร์สื่อสารในชั้นเรียน การเปิดโรงเรียนนี้ของเขาเป็นการกระทำที่ขัดแย้งกับนโยบายการกลืนกินความเป็นอุยกูร์ให้มีความเป็นจีนของรัฐบาล หลังจากที่เขาเปิดโรงเรียนดังกล่าว เขาถูกตั้งข้อกล่าวหา “ทุจริตทางการเงิน” ซึ่งอาจทำให้เขาต้องติดคุก ในที่สุด เขาถูกกดดันและต้องลี้ภัยออกไปอยู่ต่างประเทศ
การบังคับให้คนอุยกูร์สื่อสารกันด้วยภาษาจีนเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ทางวัฒนธรรมวิธีหนึ่ง ความพยายามของรัฐบาลจีนที่จะทำลายภาษาอุยกูร์ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายในค่ายให้การศึกษาใหม่มีคนอุยกูร์และกลุ่มชาติพันธ์ุอื่น ๆ อีกมากกว่าหนึ่งล้านคนถูกปรับทัศนคติ ปรับวิธีคิด และบังคับให้ละทิ้งการใช้ภาษาของตนเอง ส่วนภายนอกค่ายดังกล่าว เด็กรุ่นใหม่ก็ถูกถอนรากทางวัฒนธรรมโดยไม่ให้พวกเขาเรียนรู้ภาษาดั้งเดิมของตนเอง อีกทั้งรัฐบาลจีนยังส่งคนจีนฮั่นนับล้านคนมาอาศัยอยู่ร่วมกับชาวอุยกูร์ โดยคนจีนฮั่นเหล่านี้จะพูดคุยกับคนในพื้นที่ด้วยภาษาจีนเท่านั้น และคอยเป็นผู้สอดส่องคนในพื้นที่ว่าพูดภาษาจีนหรือไม่ ทำให้ปัจจุบันนี้การไม่พูดภาษาจีนกลายเป็นสิ่งต้องห้ามไปเสียแล้ว
Comments